เมนู

แล้ว ก็บรรลุพระอรหัตหมดทุกรูป. เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างนี้. ต่อมาภายหลัง
พระศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาพวกอุบาสิกา
ไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ จึงทรงสถาปนานางกาติยานีอุบาสิกา ไว้ในตำแหน่ง
เอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาอริยสาวิกา ผู้เลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้น
แล.
จบอรรถกถาสูตรที่ 8

อรรถกถาสูตรที่ 9


9. ประวัตินางนกุลมารดาคหปตานี



ในสูตรที่ 9 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า วิสฺสาสิกานํ ท่านแสดงว่า นางนกุลมารดาคหปตานี
เป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาอริยสาวิกาผู้กล่าวคำคุ้นเคย. ก็คำที่จะพึงกล่าว
ในเรื่องนี้ทั้งหมด มีนัยที่กล่าวไว้แล้วในอุปาสกปาลิในหนหลังนั้นแล.
พึงทราบเรื่องนางนกุลมารดาเทียบเคียง (ในอุบาสกบาลี ) แล.

จบอรรถกถาสูตรที่ 9

อรรถกถาสูตรที่ 10


10. ประวัตินางกาฬีอุบาสิกาชาวกุรรฆรนคร



ในสูตรที่ 10 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า อนุสฺสวปสนฺนานํ ท่านแสดงว่า นางกาฬีอุบาสิกา
ชาวกุรรฆรนคร เป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใส
ที่เกิดขึ้นโดยฟังตาม ๆ กันมา.
ดังได้สดับมา นางกาฬีอุบาสิกานั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า

ปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนสกุล กรุงหังสวดี กำลังฟังธรรมกถาของ
พระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่ง
เอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้เลื่อมใสโดยฟังตาม ๆ กันมา จึงทำ
กุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. นางเวียนว่ายอยู่ใน
เทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปบาทกาสน บังเกิดในเรือนสกุล
กรุงราชคฤห์. เหล่าญาติได้ตั้งชื่อนางว่า กาฬี. นางเจริญวัยแล้ว มีสามี
ในกุรรฆรนคร. ครั้งนั้น โดยการอยู่ร่วมกัน นางจึงตั้งครรภ์. นางมี
ครรภ์ครบกำหนดแล้ว คิดว่า การคลอดบุตรในเรือนของตนเหล่าอื่น
ไม่สมควร จึงไปกุรรฆรนครของตน ต่อจากเวลาเที่ยงคืน ฟังคำของ
เหล่าสาตาคิรยักษ์และเหมวตยักษ์ซึ่งยืนในอากาศเหนือปราสาทของตน
กล่าวพรรณนาพระคุณพระรัตนตรัย เกิดความเลื่อนใสที่ได้ยินเสียง
สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล โดยยังไม่ได้เฝ้า
พระศาสดาเลย ต่อมา นางก็คลอดบุตร. เรื่องทั้งหมด กล่าวไว้พิสดาร
แล้วในหนหลัง. ต่อมา พระศาสดาประทับนั่งท่ามกลางภิกษุสงฆ์
ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาเหล่าอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ
จึงทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้นี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบา-
สิกา ผู้เสื่อมโดยฟังตาม ๆ กันมา
แล.
จบอรรถกถาอุปาสิกาปาลิ ประดับด้วยสูตร 10 สูตร
จบประวัติอุสิกาสาวิกาเอตทัคคะ 10 ท่าน
จบอรรถกถาเอตทัคคปาลิทั้งหมด ในมโนรถปูรณี
อรรถกถาคุตตรนิกาย ด้วยสูตรมีประมาณเท่านี้.

อัฏฐานบาลี



วรรคที่ 1



ว่าด้วยฐานะและอฐานะ



[153] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ จะ
พึงยึดถือสังขารไร ๆ โดยความเป็นสภาพเที่ยงนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่
โอกาสที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่ปุถุชนจะพึงยึดถือสังขาร
อะไร ๆ โดยความเป็นสภาพเที่ยงนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้.
[154] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
จะพึงยึดถือสังขารไร ๆ โดยความเป็นสุขนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่
จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่ปุถุชนจะพึงยึดถือสังขารไร ๆ โดย
ความเป็นสุขนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้.
[155] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
จะพึงยึดถือธรรมไร ๆ โดยความเป็นตนนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่
จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่ปุถุชนจะพึงยึดถือธรรมไร ๆ โดย
ความเป็นตนนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้.
[156] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
จะพึงฆ่ามารดานั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
แต่ข้อที่ปุถุชนจะพึงฆ่ามารดานั้น เป็นฐานะที่จะมีได้.
[157] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
จะพึงฆ่าบิดานั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย